คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

30.11.51

# 5 วิธีแปลงกายเป็นสาวหวาน ในชั่วโมงเร่งด่วน







ถ้าพูดถึงความสวย คนอยากสวยก็แค่เดินไปให้หมอศัลยกรรม ทำคิ้วถาวร กรีดตาสองชั้น เหลาคาง รีดไขมัน หรือเลยเถิดถึงขั้นตัดแต่งซี่โครงเพื่อให้เอวคอดกิ่ว... อันนี้ไม่ยากเพราะมันเป็นเรื่องของร่างกายล้วนๆ แต่ถ้าพูดถึงความหวาน คนอยากหวานไม่สามารถเดินไปให้หมอศัลยกรรมทำยิ้มถาวร กรีดแววตาอ่อนโยน หรือยัดซิลิโคนหัวใจแจ่มใส...


อันนี้ยากมาก ยากที่สุด ยากจนถึงขั้นหมอเทวดาก็ทำศัลยกรรมให้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ


1. ถูกแพงไม่รู้ ขอชมพูไว้ก่อน หน้าใส ผิวผ่อง อมชมพูเรื่อๆ เป็นความสวยแบบธรรมชาติที่มองแล้วเพลินตา เพลินใจ คนที่เข้าข่ายหน้าไม่ให้แต่ใจรัก จึงมักพึ่งเครื่องสำอางปกปิดริ้วรอยหรือเนรมิตแก้มเปล่งปลั่งเกินจริง ไม่ก็แต่งหน้าแต่งตาเข้มราวกับนางแบบแมกกาซีน จนดูเหมือนใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา ในอารมณ์ที่อยากจะเป็นสาวหวาน อย่างแรกเลย ขอแนะนำให้ลอกคราบเครื่องสำอางหนาๆ ออกให้เกลี้ยง จะเป็นรองพื้นอย่างหนา คิ้มสีเข้ม อายชาโดว์เป็นชั้นๆ ที่เปลือกตา บลัชออนที่แดงเป็นไส้ซาลาเปาหรือลิปสติกสีสดเป็นเลือด ฯลฯ ลองเก็บเฉดสีเก่าใส่ลิ้นชัก แล้วเปลี่ยนมาใช้แป้งเด็กเนื้อบางเบา บลัชออนสีชมพูอ่อน กับลิปสติกสีชมพูใสแค่แท่งเดียว หรือจะแถมน้ำยาอุทัยทิพย์แตะแก้มเบาๆ สักนิดก็ยังได้้ถ้ารู้สึกว่าหน้าซีดเป็นน้องไก่ต้มเกินไป มองกระจกดีๆ แล้วจะพบว่าเปลือกเก่าๆ บนใบหน้าถูกกะเทาะออกไปแล้ว ใครคนใหม่กำลังจะเผยโฉมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว


2. ยิ้มจากหัวใจ อย่าเพิ่งขยับไปไหน ยืนอยู่หน้ากระจกนั่นแหละขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดในโลก ยิ้มสิจ๊ะ.... ยิ้มสบายๆ แบบที่เขาเรียกว่าระบายยิ้มอ่อนๆน่ะ อย่าฉีกยิ้ม อย่าตั้งใจยิ้มกว้างเกินเหตุ และอย่าล็อคสเปกรอยยิ้มอย่างที่เขาเรียกว่ายิ้มค้าง ถ้ายิ้มแบบนี้จะเกิดอาการเมื่อยปากได้ง่ายๆ เดี๋ยวจะพาลขี้เกียจยิ้มไปซะอีก ถามตัวเองง่ายๆ ว่าระหว่างสวยหล่อบาดใจแต่เป็นเสือยิ้มยาก กับคนหน้าตาธรรมดาแต่ยิ้มเก่งชะมัด เราจะส่งยิ้มและเอ่ยปากทักใครก่อนกัน ถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ รอยยิ้มก็คงเป็นเหมือนประตูของหัวใจเช่นกัน ถึงจะยิ้มด้วยกันทั้งคู่แต่ยิ้มที่ปาก เห็นก่อนและชัดเจนกว่ายิ้มที่ตา ว่าแต่ว่าตอนนี้คุณเห็นใครคนใหม่ที่หน้าหวานใสสบายตาชวนมองในกระจกแล้วใช่ไหม


3. ปล่อยผมเป็นอิสระสักวัน หน้าสวยใสยิ้มกระจ่างแล้ว อย่าปล่อยให้ผมแข็งเป็นตังเม ใครที่ชอบใส่ครีมหรือโปะเจลหนาเตอะ วันนี้ตัดใจบอกลาสักวัน แล้วลองปล่อยผมตามธรรมชาติ ถ้าสยายแล้วสลวยก็แทบไม่ต้องจัดการอะไรอีก แต่ถ้าสยายแล้วออกแนวสยอง หรือพองฟูเกินควบคุม ก็แค่รวบผมง่ายๆ จะเปาะเดียวเป็นเปีย ก็แล้วแต่ความสามัคคีของเส้นผม แต่ถ้ายังไม่มั่นใจในตัวเอง จะอาศัยโรลไฟฟ้าแต่งผมลอนอ่อนๆ ก็ไม่ว่ากัน เน้นนะว่า ลอนอ่อนไม่ใช่ลอนเป็นเกลียวแข็งเหมือนสายโทรศัพท์


4. เสื้อผ้าโทนสีอ่อน จะเป็นสาวหวานทั้งตัวทั้งที เสื้อสูทสีเข้ม เสื้อแดงแรงฤทธิ์ ชุดเปรี้ยวเข็ดฟัน หรือเดรสจับจีบแข็งเป็นแพ ถึงจะใส่เป็นประจำ แต่นาทีนี้คงต้องเก็บใส่ตู้ไว้ก่อน เลือกใส่เสื้อโทนสีอ่อนเย็นตา จะขาว ฟ้า ชมพู เขียว เหลือง ก็ขอให้คุมโทนอ่อนๆ เข้าไว้ ไม่ต้องถึงกับอ่อนจนซีด แค่ไม่ให้สีเสื้อแยงตาคนมองรวมถึงแบบเสื้อก็เน้นสไตล์ Casual หรือแบบลำลอง จะลายทาง ลายขวาง หรือลายดอก กติกาเดียวกับการคุมโทนสี คืออย่าเด่นอย่าแรงจนความหวานบนใบหน้าถูกแย่งความสนใจ ในที่นี้ยังไม่รวมไปถึง Accessories ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ กำไล เข็มขัด กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ ก็น่าจะเลือกแบบที่ไปกันได้กับสไตล์ Casual เช่นกัน ไม่อย่างนั้น 3 ข้อแรกที่ลงมือทำมาก็หมดความหมาย


5. คิดหวาน พูดหวาน จะเป็นสาวหวานทั้งที ต้องหวานทั้งกายและใจ อุตส่าห์แปลงโฉมภายนอกจนเป็นสาวหวานเต็มตัวแล้ว จะให้ครบสูตรต้องหวานไปถึงภายในด้วย จะสวยหวานแค่ไหน ถ้าคุยโขมงด้วยภาษาพ่อขุนรามคำแหงกลางสยามฯ แถมยังสูบบุหรี่ปุ๋ยๆ อีกต่างหาก จะเรียกเต็มปากได้ไงว่าหนูเป็นสาวหวาน ไม่ต้องถึงกับคลานเข่า พูดเจ้าคะเจ้าขา นาทีละ 10ครั้ง ขอแค่พูดเพราะ ไม่สบถ โวยวาย แค่นี้ก็พร้อมออกงานได้แล้ว

ข้อมูลจาก centerpoint

# สาวๆ ทำอย่างไร..ให้เซ็กซี่สมใจ








บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ ข่าว สาวๆ ทำอย่างไร ให้ Sexy เซ็กซี่ สมใจ เพราะความ Sexy เซ็กซี่ สำหรับบางคนก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิดทุกคนไป มนุษย์ส่วนใหญ่จะเซ็กซี่ได้ มักเข้าตำราไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งต่างหาก อ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ แต่งตัว ข่าว สาวๆ ทำอย่างไร ให้ Sexy เซ็กซี่ ได้ที่นี่ค่ะ
เป็นเรื่องน่าพิศวงว่าเมื่อไหร่สาวๆ ทำตัวเซ็กซี่ ขึ้นมาละก็ โอ้ย...รู้สึกจะเรียกคะแนนนิยมจากเพศตรงข้ามได้ตะรึม ตึ่ม ตรึมเลยเชียว แถมการทำตัวเซ็กซี่ ไม่ถึงกับต้องสวยหรือน่ารัก ส่วนชายก็ไม่ต้องหล่อลากดิน แต่ถ้าเกิดมามี "หน้าตาดี" ช่วยเสริมด้วยก็ยิ่งแจ๋ว

ทว่า คนที่ไม่สวย, ไม่หล่อ, ไม่งาม หรือไม่คมเข้มชนิดบาดตา แทงใจจนทำให้ใครๆเหลียวหลังแว่บมองได้ ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปซะก่อน เพราะบางทีหน้าตาไม่โดดเด่น แต่มีอย่างอื่นเด่น...อ่ะฮ้า อย่าเพิ่งคิดเตลิดเปิดเปิง ที่ว่าอย่างอื่นเด่น เช่น หากเป็นชายควรมีเรือนร่างฟิตเปรี้ยะ, มีกล้ามแขน, มีกล้ามหน้าท้อง เรียกว่า พอถอดเสื้อออกแล้วดูดี จน "สาวที่บ้าผู้ชาย" หลงระเริงอยากคว้ามาเป็นแฟนทันที ส่วนผู้หญิงแค่ลองไว้ผมยาวบวกแต่งหน้าเมกอัพให้โฉบเฉี่ยวซะหน่อย แค่นี้ก็เซ็กซี่ได้

แถมใครมีแฟนเป็นคนเซ็กซี่ก็มักภูมิอกภูมิใจตัวเองซะด้วยแฮะ ว่าอุตส่าห์ไปสอยอ่อยเหยื่อจนมีแฟนที่ทำให้คนอื่นตาร้อนผ่าวได้ แหมอย่างกะซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกแจ็กพอตยังไงยังงั้นเชียว แม้การมีแฟนหุ่นเซ็กซี่ ทำให้บางทีต้องทำใจบ้างก็เหอะ ว่าแฟนของคุณย่อมตกเป็นเหยื่อสายตาของชาวบ้านมั่งล่ะ ก็ถือว่าแบ่งๆกันไปเพื่อช่วยเพื่อนร่วมโลกละกัน ได้บุญนะเนี่ยเดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก 555
ดังนั้น ความเซ็กซี่สำหรับบางคนก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิดทุกคนไป แต่หากใครเข้าข่าย บอร์น ทู บี เกิดมาเพื่อเซ็กซี่ขนาดน้าน ก็อิจฉายะเฟ้ย เชอะคนอะไร้โชคดีจริงๆ แต่โดยทั่วไป มนุษย์ส่วนใหญ่จะเซ็กซี่ได้ มักเข้า ตำรา "ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง" ให้สวิงริงโก้ต่างหาก
ส่วนจะทำไงให้เซ็กซี่ได้น่ะเหรอ? โถ ไม่ยากหรอกแค่หืดขึ้นคอ เอ้ย แค่เข้าไปถามคนที่เซ็กซี่ดูสิว่า ทำไงให้ตัวเองดูดีสวีวี่วีปานนั้น แต่ก็อีกใครว้าจะกล้าเข้าไปถามคนพวกนั้นตรงๆ ยิ่งถ้าเป็นคนแปลกหน้าด้วยแล้ว มีแต่คนหน้าด้าน...เอ้ย คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยมเท่านั้นที่ทำเนียนได้
งั้นขอเป็นกูรู แนะการทำตัวให้เซ็กซี่ดีฝ่าเนอะ อันว่าความเซ็กซี่นี่นะ เริ่มได้ตั้งแต่.....
1. ควรมีผิวพรรณดี, อ่อนนุ่มและสะอาด
อย่าลืมนะจ๊ะว่า ผิวที่ผุดผ่องและเปล่งปลั่งนั้นเรียกร้องความสนใจจากใครๆ และแม้แต่ตัวคุณเองได้ซำเหมอ ถามว่า แล้วทำไงผิวถึงจะสวยล่ะ? ก็ต้องหมั่นดูแลและบำรุงรักษาสิ แต่พูดนี่ไม่ต้องถึงกับไปเสียตังค์พิถีพิถันกับผิวมาก ขนาดขวนขวายหายาวิเศษที่มีสูตรผสมของทองคงทองคำตามอย่างไฮโซ ที่ต้องจ่ายตังค์กันทีเป็นแสนเป็นล้านหรอกนะ แค่ดูแลผิวตามสไตล์โลโซของเราก็พอ เช่น ใช้ครีมหรือโลชั่นที่ช่วยให้ผิวใส และอย่าลืมขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือขรุขระหมองคล้ำออกไปด้วยล่ะ โดยการใช้ครีมหรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ไม่งั้นจะใช้โฟมที่มีสครับก็ได้ ขอให้ เลือกให้ถูกกับผิวของคุณก็พอ เพราะโฟม หรือครีมล้างหน้าบางยี่ห้อ บางคนใช้ได้ดี แต่บางรายกลับแพ้ก็มี อยากงามก็ต้องดูแลเยอะๆ แฟนจะได้รักได้หลง แต่อย่าไปยึดติดกับการดูโฆษณาขายของทางทีวีมากไป เพราะถ้าใครไม่รักเราเพราะเราผิวเสีย หรือรักเพราะเราผิวดีอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงจิตใจของเราเลยว่าดีหรือร้ายขนาดไหน งั้นก็แค่รักฉาบฉวย ไม่หนับหนุนหรอกนะ
2. ไว้ผมยาวสลวย แต่ต้องหมั่นสระผมนะ ไม่ใช่ผมยาวก็จริงแต่อู้หู...เหาเต็มเลย แล้วจะไปเซ็กซี่ตรงไหนว่ะ
นอกจากนี้ ควรไว้ผมให้รับกับใบหน้าด้วย ไม่ใช่ไว้ผมยาวทรงอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้ดูเล้ยว่าเข้ากับใบหน้าหรือชีวิตตัวเองรึเปล่า? ขืนเป็นงี้ ไว้ผมยาวไปก็ไลฟ์บอยย์ ไม่ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นอยากให้ใครๆโฉบเข้าใกล้ก็เสร็จกัน และไว้ผมยาวก็อย่าให้ผมแตกปลายเชียว ไม่งั้นความน่าพิสมัยจะลดลงได้
หากท่านใดอยากไว้ผมยาวตรงๆ หรือดัดปลายซะหน่อยแล้วสยายเคลียไหล่ ก็ทำให้ผมของคุณสวยนุ่มนวลดูเป็นผู้หญิ้ง ผู้หญิงดีนะ แถมยังเอาไว้ สะบัดไปมาเวลาชอบใจอะไรสักอย่างก็พลิ้วสลวยเก๋กู้ด (ดี) แต่อย่าปล่อยให้ผมแห้งเป็นเส้นไม้กวาด ละกัน นี่เรากำลังอยากทำตัวเป็นนางเอกนะยะ ไม่ใช่สาวเร่รอนในละครหรือแม่มดที่ไหน

3. ถ้าแต่งหน้า ก็เลือกทาปากสีสดใส แต่อย่าแดงแช้ดลูกเดียว เพราะบางคนไม่เหมาะกับสีแดงทุกเฉดซะหน่อย ขืนแดงฉูดฉาดคงไม่ไหวอ่ะ เดี๋ยวใครๆคิดว่า จะไปเล่นงิ้วมากกว่าอยากทำตัวเซ็กซี่ก็ผิดจุดมุ่งหมายดิ่
อ้อ ก่อนเลือกซื้อลิปสติก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสวยความงามบอกว่า ไม่ควรหลงเชื่อ "สีตอนที่อยู่ บนแท่ง" ให้มาก เพราะเวลาเอามาทา กลับไม่ออกสีเหมือนในแท่งถมไป ทางที่ดีลองนำลิปสติกที่สนใจมาทาที่มือก่อน ว่าถูกใจสีนี้แน่นะ? เพราะสีของลิปสติกเนี่ย มีหลายเฉดจังวุ้ย บางคนกลับชอบสีเอิร์ธโทน บางรายชอบสีชมพู หรือซื้อมา 2 แท่งเพื่อใช้ผสมกันก็มี ฉะนั้น ก่อนใช้มันยั่วยวนใจใคร ละก็ เลือกให้เหมาะเหม็งกับตัวเองละกัน ส่วนสีอะไรก็เรื่องของตู เอ้ย...เรื่องของเดี๊ยน...สาวมั่นก็เงี้ยะ
4. ทาเล็บหน่อยมะ
บางทีการทาเล็บด้วยสีแปลกๆ อาจบ่งบอกให้ผู้พบเห็นมองว่าสาวเช่นคุณซุกซนหน่อยๆได้ด้วย ยิ่งถ้ามีนิ้วเรียวยาวและแขนยาวด้วยแล้ว เหมาะจริง จริ๊ง เลยนะตัว

5. อย่าลืมกลิ่นหอมจรุงเรือนกายด้วยล่ะ
เลือกน้ำหอมสักกลิ่นที่ทำให้คุณมั่นใจในความเซ็กซี่ของตัวเอง แหมขึ้นชื่อว่าน้ำหอมก็ช่วยส่งกลิ่นดีๆทั้งนั้น ยกเว้นแต่ไปเลือกกลิ่นประหลาดกลายเป็นเหม็นแทนก็ระวังหน่อย เห็นมะจะเป็นสาวเซ็กซี่ทั้งทีไม่เห็นยากเลยนะฮ้า. ข้อมูลจาก ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

# แต่งตัวให้เข้ากับตัวเอง







Right Style & Image
สไตล์ใคร สไตล์คุณ…คุณเป็นใคร โดย แดงส์ ตักสิลา 4 พฤศจิกายน 2551


ใครเป็นคุณ ? คุณเป็นใคร ? แล้วคุณอยากเป็นใคร ? ที่เป็นคุณได้อย่างที่ตัวตนของคุณอยากจะเป็นเริ่มต้นจากความเข้าใจตัวตนของตัวเองก่อนว่า ตกลงแล้วคุณเป็นใคร ?คุณเป็นใคร ?

นั่นคือ บทบาทหนึ่งที่คุณได้รับตั้งแต่แรกเกิด คุณเลือกไม่ได้ต้องเป็นไปตามวิถีพื้นฐานครอบครัว การเลี้ยงดูแต่การเรียนรู้ทำให้เลือกที่จะเป็นได้ การเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในสังคม การอยู่ร่วมกัน หน้าที่ ความรับผิดชอบ และผลกระทบของสังคม ที่สะท้อนมาถึงตัวตนของคุณ ทำให้คุณเลือกทางที่จะอยู่ในกระแสสังคมได้อย่างมีความสุข และเป็นตัวตนของคุณที่แท้จริงหากคุณรู้จักเลือกที่จะเรียนรู้ศิลปะการจัดรูปแบบวิถีชีวิต (Lifestyle Art) ซึ่งเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวคุณในทุกๆ เรื่อง อย่างเช่น การเลือกแต่งตัวให้เหมาะสมและลงตัว คุณจะดูดีด้วยความเหมาะสมกับความเป็นตัวตนของคุณซึ่งสอดคล้อง กับอาชีพ หน้าที่ความรับผิดชอบ และองค์กรที่คุณอยู่อยากให้มองเป็นภาพเชิงศึกษา หรือภาพเชิงซ้อนว่า ตัวตนของคุณเป็นใคร ถ้าคุณไม่ยอมนำเสนอตัวเองออกมา (Self-Image) คุณไม่กล้าแสดงบทบาท ที่คุณได้รับในสายงานอาชีพของคุณอย่างเต็มที่ เต็มรูปแบบ (Right Career Style & Image) คุณอาจจะเสียโอกาสที่คุณจะได้อะไรดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าซึ่งรอคุณอยู่ ตำแหน่งใหม่ ความมั่นคงในอาชีพและสังคมที่คุณอยู่ คุณควรภูมิใจในตัวเอง ด้วยการเป็นตัวของตัวเองที่เหมาะสมกับบทบาทในครอบครัวและสังคมของคุณ (Right Social Style & Image)เรื่องของเรื่อง อยากให้แสดงความสวยงาม และความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมาใช้ให้มากที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดจึงเป็นการเปิดใจ ยอมรับตัวตนของตัวเอง เพื่อกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วคุณจะมีความสุข สนุกกับการเลือก และมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก อย่าปล่อยเวลาให้เลยไป เหมือนสายน้ำซึ่งไหลแล้วไม่ย้อนกลับมา ชีวิตและวัยของเราก็เหมือนกันเริ่มต้นศึกษาตัวเองเถอะ ความสนุกสนานรอคุณอยู่อาจจะเริ่มจากความเข้าใจในตัวองค์กร (Right Corporate Style & Image) เหตุผลของขอบข่ายงานที่ต้องดูแล รวมทั้งการที่ต้องมีเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับงาน และส่วนอื่นๆ ที่ต้องการการดูแล ตั้งแต่เรื่องศีรษะจรดเท้า ความลงตัวของเสื้อผ้า หน้าและผม ทุกอย่างจะทำให้ดูดี เสื้อผ้าดีแต่ตัวคนใส่ไม่ดูแลส่วนอื่นของตัวเอง หาสไตล์ไม่เหมาะก็อาจจะทำให้ดูไม่ดีได้และต้องรู้จักเลือกและเข้าใจในอาชีพหน้าที่ หาความเหมาะสมที่เป็นกลางที่สุด การเลือกโทนสี หาสไตล์เฉพาะตัวที่เป็นสากล รูปแบบเสื้อผ้าให้ดูเหมาะสมกับสัดส่วนรูปร่างของตัวเอง อาจจะเริ่มจากการดูของเก่า เช่นเสื้อผ้าที่แน่นตู้ของคุณเอง เลือกชิ้นส่วนที่ยังใช้ได้อยู่และร่วมสมัย นำมา Mix & Match ดูว่าได้สไตล์ที่ต้องการหรือไม่ รูปแบบสไตล์ต้องไม่ดูรุงรัง ดูดี เรียบง่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับอาชีพของคุณ หรืออาจจะหาซื้อชิ้นใหม่เพิ่มเติมให้ดูดียิ่งขึ้น เพิ่มบางชิ้นไม่จำเป็นต้องมีชุดใหม่เสมอ จะได้ช่วยประหยัดเงินด้วย